ความผิดพลาด กรณีระยะในแบบแปลน มากกว่าหน้างานจริง เป็นความรับผิดชอบของกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง แม้ย้ายไปทำงานที่อื่น ความรับผิดชอบนั้น ก็ยังติดตัวไปเสมอความผิดพลาด กรณีระยะในแบบแปลน มากกว่าหน้างานจริง เป็นความรับผิดชอบของกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง แม้ย้ายไปทำงานที่อื่น ความรับผิดชอบนั้น ก็ยังติดตัวไปเสมอ ~~~~~~~ เมื่อย้ายหน่วยงานไปทำงานที่ใหม่แล้ว ผู้บังคับบัญชาหน่วยงานเดิม ย่อมไม่สามารถบังคับให้เข้าร่วมประชุมได้ ~~~~~~~ แต่หาก งานที่ทำไว้มีความบกพร่องที่อาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ ภายหลังก็หนีความรับผิดชอบไม่ได้ ~~~~~~~ เมื่อรู้ว่าสิ่งที่เราทำไปมีปัญหา เมื่อมีโอกาสแก้ไขเพื่อป้องกันความเสียหายได้ จึงควรเข้าร่วมพิจารณาว่า ปัญหาคืออะไร จะแก้ไขได้อย่างไร ย่อมดีกว่าปล่อยให้เกิดความเสียหาย แล้วต้องมารับผิดชอบภายหลัง ~~~~~~~ training.yotathai.com/
|
ดัชนีราคา
|
มค.
|
กพ.
|
มี.ค.
|
เม.ย.
|
พ.ค.
|
มิ.ย.
|
ก.ค.
|
ส.ค.
|
ก.ย.
|
ต.ค.
|
พ.ย.
|
ธ.ค.
|
|
M | ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง(ไม่รวมเหล็กและซิเมนต์) |
317.3
|
317.8
|
318.2
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
S | ดัชนีราคาเหล็ก |
279.7
|
279.8
|
282.8
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
C | ดัชนีราคาซิเมนต์ |
201.6
|
202.5
|
202.5
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
G | ดัชนีราคาเหล็กแผ่นเรียบ |
441.0
|
439.2
|
440.2
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
I | ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศ |
277.8
|
277.5
|
276.8
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
F | ดัชนีราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว |
602.3
|
593.0
|
580.1
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
A | ดัชนีราคาแอสฟัลท์ |
529.4
|
538.0
|
531.3
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
E | ดัชนีราคาเครื่องจักรกลและบริภัณฑ์ |
373.0
|
373.0
|
373.0
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
GIP | ดัชนีราคาท่อเหล็กอาบสังกะสี |
511.1
|
502.5
|
506.9
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
AC | ดัชนีราคาท่อซิเมนต์ใยหิน |
158.7
|
159.6
|
160.5
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
PVC | ดัชนีราคาท่อ PVC |
143.7
|
151.7
|
156.8
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
W | ดัชนีราคาสายไฟฟ้า |
343.1
|
343.1
|
343.1
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
PE | ดัชนีราคาท่อ HYDENSITY POLYETHYLENE |
265.5
|
265.5
|
265.5
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ดัชนีเพื่อใช้ประกอบการคำนวณหา Escalation Factors ( K )
สำหรับสัญญาแบบปรับราคาได้ในการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้าง
"ค่า K" มีบทบาทสำคัญในธุรกิจการก่อสร้างมานาน และทวีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะจากภาวะค่าเงินบาทลอยตัว การปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการก่อสร้าง สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า จึงได้จัดทำเอกสาร ถาม - ตอบ "ค่า K" เป็นความรู้เบื้องต้นแก่ผู้สนใจ
1. ถาม : ESCALATION FACTOR หรือ "ค่า K" คืออะไร
ตอบ : คือ ตัวเลขดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของค่างาน ณ ระยะเวลาที่ผู้รับเหมาก่อสร้างเปิดซองประกวดราคาได้ เปรียบเทียบกับระยะเวลาที่ส่งงานในแต่ละงวด โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ดังนี้
(1) จะใช้ "ค่า K" ได้เฉพาะในกรณีที่ผู้รับเหมารับงานจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่นเท่านั้น
(2) ในการทำสัญญาว่าจ้าง คู่สัญญาจะต้องระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่า เป็นสัญญาแบบปรับราคาได้ในการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้าง
2. ถาม : "ค่า K" มีความเป็นมาอย่างไร
ตอบ : การนำ "ค่า K" มาใช้ เริ่มจากในช่วงปี 2516 - 2517 เกิดวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ โดยน้ำมันและวัสดุก่อสร้างสำคัญ คือ เหล็กสำเร็จรูปต่างๆ ขาดแคลนและราคาสูงขึ้นมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจก่อสร้างโดยตรงและรุนแรง ผู้รับเหมาต่างได้รับความเดือดร้อน บางรายหยุดดำเนินการ บางรายละทิ้งงาน เพราะไม่สามารถรับภาระขาดทุนได้ ขณะเดียวกัน ผู้จ้างเหมาก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้นำ "ค่า K" มาใช้ เพื่อช่วยเหลือผู้รับเหมาให้ได้รับการชดเชยค่าเสียหาย ทั้งนี้มีคณะอนุกรรมการเป็นผู้กำหนด หลักเกณฑ์ เงื่อนไข สูตร ประเภท และลักษณะงานที่เข้าข่ายสามารถขอรับเงินชดเชยจากรัฐบาลได้ จนถึงปี 2524 รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการใช้ "ค่า K" เนื่องจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2532 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้นำ "ค่า K" มาใช้อีกครั้ง เนื่องจากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวในอัตราสูง ก่อให้เกิดการลงทุนอย่างมากในธุรกิจหลายสาขา โดยเฉพาะธุรกิจการก่อสร้าง เพื่อรองรับเศรษฐกิจที่ขยายตัว เป็นเหตุให้วัสดุก่อสร้างสำคัญ คือ เหล็กเส้นขาดแคลนและราคาสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างได้รับความเดือดร้อน รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือโดยมีมติดังกล่าว ให้ใช้ "ค่า K" มาจนถึงปัจจุบัน
3. ถาม : องค์ประกอบ "ค่า K" มีอะไรบ้าง
ตอบ : "ค่า K" ประกอบด้วยตัวแปรต่าง ๆ ดังนี้
M = ดัชนีราคาสินค้าวัสดุก่อสร้าง (ไม่รวมเหล็กและซีเมนต์)
S = ดัชนีราคาเหล็ก
C = ดัชนีราคาซีเมนต์
G = ดัชนีราคาเหล็กแผ่นเรียบ
F = ดัชนีราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
A = ดัชนีราคาแอสฟัลท์
E = ดัชนีราคาเครื่องจักรกลและบริภัณฑ์
GIP = ดัชนีราคาท่อเหล็กอาบสังกะสี
AC = ดัชนีราคาท่อซีเมนต์ใยหิน
PVC = ดัชนีราคาท่อ PVC
PE = ดัชนีราคาท่อ HYDENSITY POLYETHYLENE
W = ดัชนีราคาสายไฟฟ้า
I = ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศ
4. ถาม : "ค่า K" นอกจากจะให้ประโยชน์แก่ผู้รับเหมาแล้ว ในส่วนของผู้จ้างเหมาจะได้รับประโยชน์ด้วยหรือไม่ อย่างไร
ตอบ : "ค่า K" ใช้เป็นเครื่องมือช่วยเหลือทั้งผู้รับเหมาและผู้จ้างเหมาไปพร้อมกัน กล่าวคือ ช่วยลดความเสี่ยงของผู้รับเหมา กรณีที่ได้รับความเดือดร้อนจากวัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น โดยให้ได้รับการชดเชยในส่วนของผลต่างราคาวัสดุก่อสร้าง ณ วันที่ประกวดราคาได้ เทียบกับวันส่งมอบงานในแต่ละงวด ขณะเดียวกันผู้จ้างเหมาใช้ "ค่า K" เป็นเครื่องมือป้องกันมิให้ผู้รับเหมาเอาเปรียบ โดยการบวกราคาวัสดุก่อสร้างเผื่อการเปลี่ยนแปลงไว้ล่วงหน้ามากจนเกินไป
5. ถาม : งานก่อสร้างประเภทใดบ้าง ที่อยู่ในเงื่อนไขสามารถใช้ "ค่า K"
ตอบ : งานก่อสร้างที่จะสามารถนำ "ค่า K" มาคำนวณเพื่อขอรับเงินชดเชยได้ มี 5 ประเภท โดยมีสูตรที่ใช้คำนวณ 35 สูตร ดังนี้
งานอาคาร 1 สูตร
งานดิน 3 สูตร
งานทาง 7 สูตร
งานชลประทาน 7 สูตร
งานระบบสาธารณูปโภค 17 สูตร
ทั้งนี้ รวมถึงงานปรับปรุงและซ่อมแซมตามประเภทของงานดังกล่าวด้วย
6. ถาม : การรับเหมาก่อสร้างงานต่างๆ จะทราบได้อย่างไรว่า ประเภทงานนั้นจะใช้สูตรอะไร และจะขอทราบรายละเอียดของสูตรได้จากที่ไหน
ตอบ : โดยทั่วไปผู้รับเหมาเมื่อรับงานจากหน่วยงานราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในสัญญาระบุว่า เป็นสัญญาแบบปรับราคาได้ ในสัญญามักจะระบุสูตรสำหรับประเภทงานนั้นๆ เสมอ อย่างไรก็ตาม หากผู้รับเหมาต้องการทราบรายละเอียดสูตรต่างๆ สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี
7. ถาม : ตัวเลขที่ใช้แทนค่าในสูตรแต่ละประเภทงานก่อสร้าง ได้มาอย่างไร
ตอบ : ตัวเลขที่ใช้แทนค่าในสูตรแต่ละประเภทงานก่อสร้าง คือ ตัวแปรต่าง ๆ รวม 13 รายการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของ "ค่า K" ( ข้อ 3 ) ดัชนีราคาดังกล่าวจัดทำและเผยแพร่เป็นประจำทุกเดือน โดยสำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์
8. ถาม : ผู้รับเหมาก่อสร้างจะเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยในทุกกรณีได้หรือไม่
ตอบ : แม้ว่าผู้รับเหมาจะทำสัญญากับผู้จ้างเหมา โดยปฏิบัติตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ ประเภท และลักษณะงานตามที่กำหนดไว้ในสัญญาแบบปรับราคาได้ครบถ้วนแล้วก็ตาม แต่ผู้รับเหมาก็ไม่สามารถเรียกร้องรัฐบาลให้จ่ายเงินชดเชยได้เสมอไป กล่าวคือ จะต้องคำนวณ "ค่า K" โดยใช้สูตรตามประเภทงานก่อสร้าง ณ เดือนที่ส่งมอบงาน เทียบกับ "ค่า K" เดือนที่เปิดซองประกวดราคา ถ้าการเปลี่ยนแปลงของ "ค่า K" แต่ละงวดงานมีค่ามากกว่าร้อยละ 4 (หรือ 1.04) ผู้รับเหมาจึงจะสามารถนำ "ค่า K" ไปเรียกร้องขอรับเงินชดเชยได้ แต่ขณะเดียวกัน หาก "ค่า K" ของแต่ละงวดงานมีค่าน้อยกว่าร้อยละ 4 (หรือ 0.96) ผู้จ้างเหมาก็จะเรียกค่างานคืนจากผู้รับเหมาในส่วนที่ราคาวัสดุก่อสร้างลดลง โดยอาจใช้วิธีการหักเงินค่างานในงวดถัดไป หรือหักเงินจากหลักประกันสัญญาแล้วแต่กรณี
9. ถาม : การคำนวณค่า K ทำได้อย่างไร
ตอบ : คำนวณค่า K จากสูตรตามได้ระบุไว้ในสัญญา โดยใช้ตัวเลขของตัวแปร 13 ตัวแปรที่จัดทำโดยกระทรวงพาณิชย์ เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
- กรณีที่มีงานก่อสร้างหลายประเภท รวมอยู่ในสัญญาเดียวกัน จะต้องแยกค่างานก่อสร้างแต่ละประเภทให้ชัดเจนตามลักษณะงานนั้น และให้สอดคล้องกับสูตรที่กำหนดไว้
- การคำนวณหาค่า K กำหนดให้ใช้ทศนิยม 3 ตำแหน่ง ทุกขั้นตอนโดยไม่มีการปัดเศษ และกำหนดให้ทำเลขสัมพันธ์ (เปรียบเทียบ) ให้เป็นผลสำเร็จก่อน แล้วจึงนำผลลัพธ์ไปคูณกับตัวเลขคงที่หน้าเลขสัมพันธ์นั้น ( ดังตัวอย่าง )
- ให้พิจารณาเงินเพิ่ม หรือลดราคาค่างวดงานจากราคาที่ผู้รับจ้างทำสัญญาตกลงกับผู้ว่าจ้าง เมื่อค่า K ตามสูตรสำหรับงานก่อสร้างนั้น ๆ ในเดือนที่ส่งมอบงานมีค่าเปลี่ยนแปลงไปจากค่า K ในเดือนเปิดซองประกวดราคามากกว่า 4 % ขึ้นไป โดยนำเฉพาะส่วนที่เกิน 4% มาคำนวณปรับเพิ่ม หรือลดค่างานแล้วแต่กรณี (โดยไม่คิด 4% แรกให้)
- ในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่สามารถทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาในสัญญา โดยเป็นความผิดของผู้รับจ้าง ค่า K ตามสูตรต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ในการคำนวณค่างานให้ใช้ค่า K ของเดือนสุดท้ายตามอายุสัญญา หรือค่า K ของเดือนที่ส่งมอบงานจริง แล้วแต่ว่าค่า K ตัวใดจะมีค่าน้อยกว่า
- การจ่ายเงินแต่ละงวด ให้จ่ายค่างานที่ผู้รับจ้างทำได้แต่ละงวดตามสัญญาไปก่อน ส่วนค่างานเพิ่ม หรือลดลง จะคำนวณได้ต่อเมื่อทราบดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ซึ่งนำมาคำนวณหาค่า K ของเดือนที่ส่งมอบงานงวดนั้น ๆ เป็นที่แน่นอนแล้ว เมื่อคำนวณเงินเพิ่มได้แล้ว ให้ขอทำความตกลงเรื่องเงินกับสำนักงบประมาณ
ตัวอย่าง การคำนวณเงินชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญาปรับราคาได้ (ค่า K)
- กำหนดให้ค่า K = 1
- ในกรณีได้รับเงินชดเชย ค่า K ต้องมากกว่า 1.04
- ในกรณีที่ต้องคืนเงินชดเชยค่า K ต้องน้อยกว่า 0.96
- งวดที่ 1 514,000.- บาท
- งวดที่ 2 385,500.- บาท
- งวดที่ 3 385,500.- บาท
- งวดที่ 4 642,500.- บาท
- งวดที่ 5 (สุดท้าย) 642,500.- บาท
Io = 112.2 , Co = 111.7 , Mo = 126.7 , So = 140.0
สูตรงานอาคาร
K = 0.25 + 0.15 It/Io + 0.10 Ct/Co + 0.40 Mt/Mo + 0.10 St/So
ส่งงานงวดที่ 1 วันที่ 20 กรกฎาคม 2533
ค่าตัวแปรในเดือนที่ส่งมอบงาน It = 115.8 , Ct = 117.6 , Mt = 132.7 , St = 140.8
K = 0.25 + 0.15(115.8/112.2) + 0.10(117.6/111.7) + 0.40(132.7/126.7) + 0.10(140.8/140.0)
= 0.25 + 0.15(1.032) + 0.10 (1.052) + 0.40(1.047) +0.10(1.005)
= 0.25 + 0.154 + 0.105 + 0.418 + 0.100
= 1.027
ค่า K เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 4% ไม่ได้รับเงินชดเชย
ส่งงานงวดที่ 2 วันที่ 5 กันยายน 2533
It = 116.7 , Ct = 127.8 , Mt = 135.1 , St = 140.4
K = 0.25 + 0.15(116.7/112.2) + 0.10(127.8/111.7) + 0.40(135.1/126.7) + 0.10(140.4/140.0)
= 0.25 + 0.15(1.040) + 0.10 (1.144) + 0.40(1.066) + 0.10(1.002)
= 0.25 + 0.156 + 0.114 + 0.426 + 0.100
= 1.046
ค่า K เปลี่ยนแปลงเกิน 4% เท่ากับ 1.046 - 1.04 = 0.006
จะได้รับเงินชดเชยเพิ่ม = 0.006 X 385,500 = 2,313.- บาท
ส่งงานงวดที่ 3 วันที่ 20 ตุลาคม 2533
It = 119.0 , Ct = 167.5 , Mt = 137.2 , St = 140.9
K = 0.25 + 0.15(119.0/112.2) + 0.10(167.5/111.7) + 0.40(137.2/126.7) + 0.10(140.9/140.0)
= 0.25 + 0.15(1.060) + 0.10 (1.499) + 0.40(1.082) + 0.10(1.006)
= 0.25 + 0.159 + 0.149 + 0.432 + 0.100
= 1.090
ค่า K เปลี่ยนแปลงเกิน 4% เท่ากับ 1.090 - 1.04 = 0.050
จะได้รับเงินชดเชยเพิ่ม = 0.050 X 385,500 = 19,275.- บาท
ส่งงานงวดที่ 4 วันที่ 30 พฤศจิกายน 2533
It = 119.5 , Ct = 167.5 , Mt = 137.2 , St = 139.6
K = 0.25 + 0.15(119.5/112.2) + 0.10(167.5/111.7) + 0.40(137.2/126.7) + 0.10(139.6/140.0)
= 0.25 + 0.15(1.065) + 0.10 (1.499) + 0.40(1.082) + 0.10(0.997)
= 0.25 + 0.159 + 0.149 + 0.432 + 0.099
= 1.089
ค่า K เปลี่ยนแปลงเกิน 4% เท่ากับ 1.089 - 1.04 = 0.049
จะได้รับเงินชดเชยเพิ่ม = 0.049 X 642,500 = 31,482.50 บาท
ส่งงานงวดที่ 5 วันที่ 15 มกราคม 2534
It = 119.1 , Ct = 151.7 , Mt = 138.4 , St = 137.1
K = 0.25 + 0.15(119.1/112.2) + 0.10(151.7/111.7) + 0.40(138.4/126.7) + 0.10(137.1/140.0)
= 0.25 + 0.15(1.061) + 0.10 (1.358) + 0.40(1.092) + 0.10(0.979)
= 0.25 + 0.159 + 0.135 + 0.436 + 0.097
= 1.077
ค่า K เปลี่ยนแปลงเกิน 4% เท่ากับ 1.077 - 1.04 = 0.037
ในงวดนี้ส่งงานพร้อมครุภัณฑ์ 4 รายการ เงิน 149,600.- บาท ประกอบด้วย
1. กระดานดำ 8 ชุด 22,400.- บาท
2. โต๊ะม้านั่งครู 8 ชุด 12,000.- บาท
3. โต๊ะม้านั่งนักเรียน 320 ชุด 112,000.- บาท
4. เครื่องดับเพลิง 2 ชุด 3,200.- บาท
รวม 149,600.- บาท
ดังนั้น จะได้รับเงินชดเชย = (642,500 - 149,600) X 0.037 = 18,237.30 บาท
รวมได้รับเงินชดเชยทั้งสัญญา (5 งวด)= 2,313 + 19,275 + 31,482.50 + 18,237.30
= 71,307.80 บาทกรณีการคืนเงินค่า K
สมมุติการส่งงานในงวดที่ 5 (งวดสุดท้าย 15 มกราคม 2534 ) มีค่าดัชนีชุดต่าง ๆ ดังนี้
It = 107.9 , Ct = 110.5 , Mt = 113.2 , St = 135.2
K = 0.25 + 0.15(107.9/112.2) + 0.10(110.5 /111.7) + 0.40(113.2/126.7) + 0.10(135.2/140.0)
= 0.25 + 0.15(0.961) + 0.10 (0.989) + 0.40(0.893) + 0.10(0.965)
= 0.25 + 0.144 + 0.098 + 0.357 + 0.096
= 0.945
ค่า K เปลี่ยนแปลงต่ำกว่า 4% เท่ากับ 0.96 - 0.945 = 0.015
ในงวดนี้มีค่างานต้องเรียกคืน = (642,500 - 149,600) x 0.015 = 7,393.50 บาท
รวมได้รับเงินชดเชยทั้งสัญญา (5 งวด) = 2,313 + 19,275 + 31,482.50 - 7,393.50
= 45,676.50 บาท
10. ถาม : การต่ออายุสัญญางานก่อสร้างจากสัญญาเดิม ผู้รับเหมาจะนำ"ค่า K" มาใช้ในช่วงเวลาที่ต่อสัญญาออกไป เพื่อขอรับเงินชดเชยได้หรือไม่
ตอบ : กรณีที่ผู้รับเหมาไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามสัญญา โดยเหตุสุดวิสัย แต่ส่วนราชการผู้ว่าจ้างอนุมัติให้มีการต่อสัญญา และสัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาแบบปรับราคาได้ ผู้รับเหมาก็สามารถนำ "ค่า K" มาคำนวณเพื่อขอรับเงินชดเชยในช่วงเวลาที่ต่อสัญญาออกไปได้เช่นกัน
11. ถาม : ถ้ารัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยให้ผู้รับเหมาได้ทันในปีงบประมาณที่ส่งมอบงาน แต่จะจ่ายให้ในปีงบประมาณถัดไป ผู้รับเหมาจะขอคิดดอกเบี้ยกับรัฐบาลได้หรือไม่
ตอบ : การจ่ายเงินชดเชยให้ผู้รับเหมาในกรณีที่ใช้สัญญาแบบปรับราคาได้นั้น หากรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยข้ามปีงบประมาณ ผู้รับเหมาไม่สามารถคิดดอกเบี้ยจากรัฐบาลได้ และเป็นหน้าที่ของผู้รับเหมาที่จะต้องรีบติดต่อขอรับเงินชดเชยจากสำนักงบประมาณ ภายในกำหนด 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบงานงวดสุดท้าย หากพ้นกำหนดนี้ไปแล้วผู้รับเหมาไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องเงินชดเชยค่างานก่อสร้างจากผู้จ้างเหมาได้อีกต่อไป
12. ถาม : หากมีปัญหาเกี่ยวกับการคำนวณ "ค่า K" จะสามารถสอบถามได้จากที่ใด
ตอบ : สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงบประมาณ ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 02-273-9027
13. ถาม : ถ้าประสงค์จะได้ดัชนีในการคำนวณหา "ค่า K" และขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมจะติดต่อที่ใด
ตอบ : สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดทำดัชนีเพื่อใช้ประกอบในการคำนวณหา "ค่า K" เผยแพร่เป็นประจำทุกเดือน โดยจะเผยแพร่ไม่เกิน 2 วันทำการของเดือนถัดไป และวางจำหน่าย ณ สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า (ห้อง 21203) อาคาร 1 ชั้น 12 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ 44/100 ถนนนนทบุรี 1 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี11000 ราคาฉบับละ 5 บาท
ในส่วนภูมิภาคสามารถติดต่อสอบถามหรือขอถ่ายเอกสารได้จากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานจะต้องรับรองสำเนาเนื่องจากตัวแปรนี้เป็นเอกสารทางราชการที่ผู้รับเหมาจะต้องนำไปประกอบการยื่นคำร้องขอเงินชดเชยค่าการก่อสร้าง
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อกลุ่มดัชนีการก่อสร้าง สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02-507 6719 ในวันและเวลาราชการ
มีแบบรูปรายการงานก่อสร้างแล้ว ตั้งกรรมการกำหนดราคากลาง เพื่อจัดทำราคากลางงานก่อสร้าง แล้วพัสดุจึงจะทำรายงานขอจัดจ้างก่อสร้าง ตามระเบียบ ข้อ 22
~~~~~~~~
TOR ตาม ว159 ตามแนวทางที่ 2 (กรณีเลือกทำ)
เป็นเอกสารที่จัดทำโดยกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่พัสดุ เพื่อนำข้อมูลไปทำรายงานขอจัดจ้างก่อสร้างต่อไป
~~~~~~~~
เมื่อมีแบบรูปรายการงานก่อสร้างแล้ว ก่อนทำรายงานขอจัดจ้าง เจ้าหน้าที่พัสดุต้องเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ขึ้นมาทำหน้าที่กำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการก่อสร้าง เป็นประกาศคณะกรรมการราคากลางและขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ มาจาก มาตรา 34 วรรคหนึ่ง (1) แยกจาก ระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง
~~~~~~~~
เมื่อพัสดุนำข้อมูลในร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ (TOR) (ถ้ามีการเลือกจัดทำตามแนวทางที่ 2) ไปใช้ในแบบประกาศตาม ว410 แล้ว TOR ก็จะหมดหน้าที่ในขั้นตอนนี้ จึงไม่ต้องนำ TOR ไปแนบประกาศ หรือ แนบสัญญาก่อสร้าง เพราะจะสร้างปัญหาสัญญาขัดแย้งกันภายหลังได้ หากข้อความใน TOR ไปขัดกับประกาศ
~~~~~~~~
สนใจอบรมกับโยธาไทย training.yotathai.com/
ดูและDownload
ราคากลางงานก่อสร้าง ไม่ใช่ประมาณราคาเพื่อ ตั้งงบ หรือราคาเบื้องต้นในขั้นตอนการออกแบบ
~~~~~~
หลังทำราคากลาง ไม่ทำ TOR
~~~~~~
ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ (Terms of Reference : TOR) ตาม ว159 เป็นขั้นตอนที่ทำโดยคณะกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ทำเพื่อให้พัสดุเอาข้อมูลมาทำรายงานขอจ้าง และ ประกาศจัดจ้างเท่านั้น ไม่เอาไปแนบสัญญาก่อสร้าง
~~~~~~
training.yotathai.com/
ดูและDownload
ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ (Terms of Reference : TOR) ตาม ว159 ในงานจัดจ้างก่อสร้าง ทำเพื่อให้พัสดุเอาไปใช้งาน ไม่ได้ทำเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างก่อสร้าง
~~~~~~
ลำด้บการทำงาน
แบบรูปรายการงานก่อสร้าง+TOR --> ราคากลางงานก่อสร้าง --> รายงานขอจัดจ้าง -->ประกาศจัดจ้าง
~~~~~~
> ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ (Terms of Reference : TOR)
ตาม ว159 อยู่ในขั้นตอนการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ตามระเบียบข้อ 21 วรรคสาม
> ทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง เทคนิคการก่อสร้าง การให้ทำสิ่งใด หรือห้ามทำสิ่งใด ต้องถูกกำหนดในขั้นตอนการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง เพื่อที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางงานก่อสร้างจะได้คิดค่าใช้จ่ายให้ผู้รับจ้างได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมกับผู้รับจ้าง
~~~~~~
หลังการจัดทำราคากลางงานก่อสร้าง ต้องนำราคากลางงานก่อสร้าง ไปทำรายงานขอจัดจ้างก่อสร้างตามระเบียบข้อ 22 เลย โดยไม่เพิ่มเงื่อนไข ที่จะสร้างภาระค่าใช้จ่ายในงานก่อสร้าง ให้ผู้รับจ้างอีก
~~~~~~
เมื่อพัสดุ ได้นำ ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ (Terms of Reference : TOR) ตาม ว159 มาใช้ในการจัดทำรายงานขอจัดจ้าง ตามระเบียบข้อ 22 และประกาศจัดจ้าง ตามแบบประกาศตาม ว410 แล้ว TOR ก็หมดหน้าที่ ไม่ต้องแนบไปกับประกาศ และไม่เอาไปแนบเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างก่อสร้าง
~~~~~~
training.yotathai.com/
ดูและDownload
แบบก่อสร้าง ต้องมีประมาณราคาเบื้องต้นด้วย
~~~~~~~~~
โดยอาจนำหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง มาประยุกต์ใช้
~~~~~~~~~
ให้สังเกตุว่า หน้าที่จัดทำประมาณราคาเบื้องต้น ไม่ได้ถูกใส่ไว้ในระเบียบข้อ 21 วรรคสาม โดยตรง แต่ไปพูดถึงไว้ในเรื่องราคากลางงานก่อสร้าง
~~~~~~~~~
ประมาณราคาเบื้องต้น ใช้ทำอะไร
> ประมาณราคาเบื้องต้น ถอดแบบและประมาณราคาโดยผู้จัดทำแบบแปลนก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้ที่รู้ขั้นตอนการก่อสร้างของสิ่งที่ตัวเองออกแบบไว้
> ประมาณราคาเบื้องต้น ใช้เพื่อจะทราบมูลค่า ของแต่ละงวดงาน เพื่อกำหนดเป็นสัดส่วน ว่ามูลค่างานงวดนั้นๆ คิดเป็นกี่%
~~~~~~~~~
> ให้สังเกตุว่า การแบ่งวดงาน ในขั้นตอนการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างกำหนดมูลค่างานเป็นร้อยละ
> ต่อเมื่อถึงขั้นตอนการทำสัญญา ค่อยเพิ่มเติมมูลค่างานเป็นตัวเงินให้ชัดเจน เพราะในขั้นตอนการทำสัญญา เราทราบวงเงินก่อสร้างแล้ว
~~~~~~~~~
training.yotathai.com/
ดูและDownload
แนวทางการทำงานของคณะกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างตามระเบียบข้อ 21 วรรคสาม และ หนังสือ ว159
------------
อันนี้ สำหรับงานจ้างก่อสร้าง นะครับ จัดซื้อและจัดจ้างที่ไม่ใช่งานก่อสร้าง ก็ประยุกต์เอาตามระเบียบ เพราะ มันมีความแตกต่างกัน แต่ ไม่ได้ หมายความว่า ต้อง มี ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ ตาม ว159 แนวทางที่ 2 ทุกโครงการ ไม่จำเป็น ถ้า มี แบบก่อสร้าง มีประมาณราคาเบื้องต้น มีการกำหนดระยะเวลาก่อสร้างการแบ่งงวดงานชัดเจนแล้ว ก็ไม่ต้องมี ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการก็ได้ เสนอตั้งกรรมการกำหนดราคากลาง และเมื่อได้ราคากลางแล้วพัสดุสามารถทำหน้าที่ตามระเบียบข้อ 22 ต่อได้เลย
------------
ถ้าเห็นว่าจำเป็นต้องมี ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ ตาม ว159 แนวทางที่ 2 พัสดุก็กำหนดในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างให้ชัดเจน
------------
ร่างขอบเขตงานทั้งโครงการ ตาม ว159 แนวทางที่ 2 ทำเพื่อให้พัสดุใช้เท่านั้น ไม่ได้ทำเพื่อผู้เสนอราคา ไม่ได้ทำเพื่อแนบประกาศ โดยตรง หรือ เอาไปเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา หากกรรมการชุดจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างทำไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่พัสดุสามารถทักท้วงได้
------------
อย่างไรก็ตาม แม้จะปฏิบัติตามแนวทางที่ 2 คือให้กรรมการชุดจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคา และกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ แต่กรณีที่มีการกำหนดผิดพลาดเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่พัสดุย่อมหนีความรับผิดชอบไม่ได้ เว้นแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้งานช่างเช่น การกำหนดงวดงาน การกำหนดระยะเวลาก่อสร้าง
------------
training.yotathai.com/
ช่างถึก : ผู้จัดทำ
ดูและDownload
พื้นที่ฝนตกชุกกับการคิดราคากลางงานก่อสร้าง
~~~~~~~
> จังหวัดพื้นที่ ปกติมี 55 จังหวัด
> จังหวัดพื้นที่ ฝนชุก 1 มี 14 จังหวัด
> จังหวัดพื้นที่ ฝนชุก 2 มี 8 จังหวัด
~~~~~~~
> ฝนชุกส่งผลต่อการทำงานของเครื่องจักรและตาราง Factor F
> มีผลต่อหลักเกณฑ์งานก่อสร้างทาง และ หลักเกณฑ์งานก่อสร้างชลประทาน
> ไม่มีผลต่อหลักเกณฑ์งานก่อสร้างอาคาร และ งานก่อสร้างสะพานและท่อเหลี่ยม
~~~~~~~
> ผลต่อค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร รวม ฝนชุก 1 และ ฝนชุก 2 เป็น ฝนชุก
> ผลต่อค่า Factor F แยก เป็น ฝนชุก 1 และ ฝนชุก 2
~~~~~~
สนใจอบรมกับโยธาไทย training.yotathai.com/
ดูและDownload
ค่าดำเนินการค่าเสื่อมราคางานปูผิวทางคอนกรีต งานทาง ได้รวมค่าแรงงานเข้าไปแล้ว ในการคิดราคาผิวทางคอนกรีต อย่าไปคิดค่าแรงงานคนเพิ่มเข้าไปอีก จะทำให้ค่างานซ้ำซ้อน เกิดความเสียหายต่อรัฐ
~~~~~~~
> บัญชีค่าแรงงาน (ของงานอาคาร)อยู่ในเล่มแนวทางและวิธีปฏิบัติ
> ในหลักเกณฑ์งานทาง สะพานและท่อเหลี่ยม นำมาใช้กับงานก่อสร้าง สะพาน ท่อเหลี่ยม บ่อพัก คูระบายน้ำ เป็นต้น แต่ไม่ใช้กับผิวทางคอนกรีต
~~~~~~~
เมื่อเลือกใช้หลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้างทาง การคิดค่างานผิวทางคอนกรีตก็ต้องคิดตามหลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้างทาง
~~~~~~~
การปูผิวทางคอนกรีต ไม่ซับซ้อนเหมือนงานโครงสร้าง สามารถใช้เครื่องมือ เครื่องจักรเข้ามาช่วยได้ จึงกำหนดค่างานอยู่ในตารางค่าดำเนินการค่าเสื่อม
~~~~~~~
การไปหยิบค่าแรงงานคน ที่อยู่ในหลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้างอาคาร มาใช้จึงไม่ถูกต้อง
~~~~~~~
เลือกใช้หลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้างอะไร ต้องคิดราคากลางให้ถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการถอดแบบไปจนถึงขั้นตอนการสรุปราคากลาง
~~~~~~~
สนใจอบรมราคากลางงานก่อสร้างกับโยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
ตัวอย่างการ "สืบ" และใช้ราคาวัสดุก่อสร้าง
~~~~~~
หลักการ : เลือกใช้ราคาต่ำสุด พิจารณาที่หน้างานก่อสร้าง
~~~~~~
ปัจจุบัน กรณีการสืบราคาวัสดุทุกกรณี ต้องใช้ราคาต่ำสุดเสมอ โดยพิจารณาที่หน้างานก่อสร้าง ไม่ใช่ที่แหล่งวัสดุ
> เริ่มต้นสืบจากแหล่งที่ใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้างมากที่สุดออกไปตามลำดับ
> ค่าขนส่งกำหนดโดยกรรมการฯ พิจารณาจากแหล่งถึงสถานที่ก่อสร้าง
กรณีงานก่อสร้างอาคาร แยกค่าขนส่งออกเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ
~~~~~~
สนใจอบรมราคากลางงานก่อสร้างกับโยธาไทย
training.yotathai.com/ ครับ
ดูและDownload
บัญชีค่าแรงงานก่อสร้าง ตาม ว135 แบบออนไลน์ ค้นหาได้
yotathai.link/labor <เข้าใช้
~~~~~
> กด Ctrl+F ค้นหาได้
> เจอข้อความที่ผิดพลาด แตกต่างจากต้นฉบับ กรุณาแจ้งด้วย ครับ...
~~~~~
yotathai.link/135-66 <ว135 ต้นฉบับ
ดูและDownload
ตัวอย่างการคำนวณราคาไม้แบบเฉลี่ยต่อลูกบาศก์เมตร ในหลักเกณฑ์ราคากลางงานก่อสร้างชลประทาน (ค่างานคอนกรีต)
~~~~~~~~
1 ลบ.ม. = 35.314667 ลบ.ฟ.
> ตามตัวอย่างคำนวณโดยใช้ทศนิยม 2 ตำแหน่ง ไม่ปัด
> ตัดตำแหน่งที่ 3 ทิ้ง
~~~~~~~~
> ราคาวัสดุที่ใช้คำนวณ ต้องไม่รวม VAT แต่ให้คิดค่าขนส่งถึงหน้างานก่อสร้าง
> ค่าขนส่งคำนวณโดยกรรมการราคากลาง
~~~~~~~~
> สมมุติใช้ราคาไม้ยาง รวมค่าขนส่งถึงหน้างานก่อสร้าง 625 บาท / ลบ.ฟ.
> สมมุติใช้ราคาไม้กระบาก รวมค่าขนส่งถึงหน้างานก่อสร้าง 470 บาท / ลบ.ฟ.
> 1 ลบ.ม. = 35.31 ลบ.ฟ.
> ราคาไม้ยาง หน้างานก่อสร้าง 625 x 35.31 = 22,068.75 บาท / ลบ.ม.
> ราคาไม้กระบาก หน้างานก่อสร้าง 470 x 35.31 = 16,595.70 บาท / ลบ.ม.
> ราคาไม้แบบเฉลี่ย (22,068.75 + 16,595.70)/2 = 19,332.22 บาท / ลบ.ม.
~~~~~~~~
สนใจอบรม ราคากลางงานก่อสร้าง กับ โยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
ตอบคำถามเรื่องค่า K ขยายเวลาก่อสร้างให้ผู้รับจ้าง เอาดัชนีค่า K เดือนไหน ไปคำนวณ
~~~~~~
> ขยายเวลาตามสัญญาจ้างก่อสร้างให้ผู้รับจ้างใช้ดัชนีค่า K ตามเดือนที่ขยายเวลาออกไป
~~~~~~
> แต่ถ้ากรณีสัญญาจ้างเกิดค่าปรับ ให้เลือกเดือนที่ค่าดัชนี เป็นคุณกับผู้ว่าจ้าง
~~~~~~
สนใจอบรม ราคากลางงานก่อสร้าง และการใช้ ค่า K กับโยธาไทย
training.yotathai.com/con-k
ดูและDownload
ตารางค่าดำเนินการค่าเสื่อม มาจากไหน มีวิธีคิดอย่างไร
~~~~~
> ใช้กับหลักเกณฑ์งานก่อสร้างทาง ฯ
> งานอาคาร ยืมไปใช้ได้ ถ้าจำเป็น เช่นสร้างถนนที่เป็นบริวารของงานอาคาร
> ช่วงราคาน้ำมัน 15 - 59.99 บาท ตารางเปลี่ยนทุก 1 บาท
> ใช้ราคาน้ำ B7 ที่อำเภอเมือง
~~~~~~
ต้องการศึกษาที่มา วิธีคิดค่าดำเนินการ ค่าเสื่อมราคา
yotathai.link/Operat1 < Operating Cost งานทาง สะพานและท่อเหลี่ยม
~~~~~~
สนใจอบรมกับโยธาไทย training.yotathai.com/
ดูและDownload
ตัวอย่างการคำนวณหาปริมาณงาน ASPHALT CONCRETE ทั้งโครงการ
~~~~~~~~
ตัวอย่างเช่น แบบแปลนกำหนดชั้นผิวทาง A.C.
- กว้าง 5 เมตร
- ยาว 10,000 เมตร
- พื้นที่ปูผิวแอสฟัลท์ติกคอนกรีต = 50,000 ตารางเมตร
~~~~~~~~
> ปริมาณของ A.C. ทั้งโครงการนำไปใช้ในการคำนวณหา ราคาผิวทาง A.C. ต่อตารางเมตร
> และยังสามารถใช้ในการตรวจสอบเปรียบเทียบกับจำนวนที่ผู้รับจ้างนำมาใช้งานจริงที่หน้างานก่อสร้าง
~~~~~~~~
สนใจอบรม ราคากลางงานก่อสร้างกับโยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
หลักการใช้ค่าวัสดุก่อสร้าง จังหวัดส่วนภูมิภาค ตามประกาศฯ ฉบับที่ 5 (ส่วนกลางหลักการเดียวกัน)
~~~~~~~
ผู้ซื้อวัสดุก่อสร้างคือผู้รับจ้างก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้ว่าจ้าง
~~~~~~~
หลักการที่สำคัญ
> เลือกใช้ราคาที่ถูกที่สุด โดยพิจารณาที่หน้างานก่อสร้าง
> ราคาที่ร้าน/แหล่งต้อง ไม่รวม VAT และค่าขนส่ง
> ค่าขนส่งให้ คิดค่าขนส่งโดยกรรมการกำหนดราคากลาง
~~~~~~~
วัสดุก่อสร้างที่ใช้จำนวนน้อย ซื้อจากร้านค้าวัสดุก่อสร้าง
----
ลำดับที่ 1 ใช้ข้อมูลของพาณิชย์จังหวัด
> ถ้าจังหวัดที่สถานที่ก่อสร้างตั้งอยู่มีข้อมูล ให้ใช้ก่อน
> จังหวัดที่สถานที่ก่อสร้างตั้งอยู่ไม่มีข้อมูล ให้เลือกใช้ข้อมูลจังหวัดใกล้เคียง โดยเลือกใช้จังหวัดที่ราคาต่ำสุดเมื่อรวมค่าขนส่งมาถึงหน้างานก่อสร้าง
----
ลำดับที่ 2 กรรมการกำหนดราคากลางสืบเอง จากร้าน/แหล่งที่ผู้รับจ้างสามารถจัดซื้อได้
> การสืบให้มองจังหวัดที่สถานที่ก่อสร้างตั้งอยู่และจังหวัดใกล้เคียงเป็นพื้นที่เดียวกัน
> ให้เลือกใช้ราคาจากร้าน/แหล่ง ที่ต่ำสุดเมื่อรวมค่าขนส่งมาถึงหน้างานก่อสร้าง
> สืบด้วยจำนวนที่ใช้จริง และ เป็นราคาที่ลดเพราะใช้จำนวนมากไม่ใช่> > ราคาลดแค่บางช่วงบางเวลาเพื่อส่งเสริมการตลาดของร้านค้า
> เริ่มสืบจากแหล่งที่ใกล้หน้างานก่อสร้างออกไปก่อน
~~~~~~~
.
วัสดุก่อสร้างที่ใช้จำนวนมาก ซื้อจากโรงงาน/แหล่งผลิต
====
เลือกใช้ราคาจากแหล่งผลิตที่รวมค่าขนส่งมาถึงหน้างานก่อสร้างแล้วเป็นราคาต่ำที่สุด
~~~~~~~
.
.
~~~~~~~
> ค่าขนส่งวัสดุก่อสร้าง ต้องคำนวณโดย กรรมการกำหนดราคากลางเท่านั้น
~~~~~~~
.
~~~~~~~
เฉพาะหลักเกณฑ์งานอาคาร
-----
> ใช้ราคาพาณิชย์จังหวัด ค่าขนส่งไม่คิด ถ้าจำเป็นต้องคิดแยกเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ
> ใช้ราคาจากพาณิชย์จังหวัดใกล้เคียง หรือ สืบจากร้านหรือแหล่งที่จำเป็นต้องคิดค่าขนส่งให้แยกค่าขนส่งเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ
~~~~~~~
สนใจอบรม กับโยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
ตารางค่าขนส่ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง
~~~~~~~~
> อยู่ในเล่ม แนวทางและวิธีปฏิบัติ
> หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง มีตารางค่าขนส่งให้เลือกใช้ 3 ประเภทรถขนส่ง
> กรณีหน้างานก่อสร้าง จำเป็นต้องขนส่งด้วยรถหรือยานพาหนะอื่นๆ เช่น เรือ เฟอร์รี่ รถกระบะ หรือรถไฟ เป็นต้น ผู้ทำหน้าที่คำนวณราคากลาง สามารถคำนวณได้เองตามข้อเท็จจริง
~~~~~~~~
6 ล้อ yotathai.link/table-trans-6
10 ล้อ yotathai.link/table-trans-10
10 ล้อ + พ่วง yotathai.link/table-trans-10p
~~~~~~~~
สนใจอบรมราคากลางงานก่อสร้าง กับ โยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
สรุปหลักการใช้ราคาวัสดุก่อสร้าง
> ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง อย่างเคร่งครัด
> ปัจจุบัน ปฏิบัติตามประกาศ ฉบับที่ 5 บังคับใช้ 2 สิงหาคม 2565
> ทำตามหลักเกณฑ์ที่เลือกใช้กำหนดก่อน หลักเกณฑ์ที่เลือกใช้กำหนดอย่างไร ก็ใช้ตามนั้นก่อน
> ของจำนวนน้อย ใช้ราคาพาณิชย์จังหวัด
> ของจำนวนมาก ใช้ราคาที่แหล่งวัสดุ
> การสืบ สืบจากหลายที่ ใช้ราคาต่ำสุด ที่พิจารณารวมค่าขนส่งมาถึงหน้างานก่อสร้าง ไม่ใช้ราคาเฉลี่ย
> เริ่มสืบจากแหล่งที่ใกล้สถานที่ก่อสร้างออกไปก่อน
> ราคาวัสดุที่สืบมา ไม่รวม VAT และค่าใช้จ่าย อื่นๆ เช่นค่าขนส่ง ค่าติดตั้ง
> ค่าขนส่งที่ต้องคิด คิด คำนวณ โดยกรรมการกำหนดราคากลาง
> หลักเกณฑ์งานอาคาร ไม่คิดค่าขนส่ง ถ้าจำเป็นต้องคิด แยกเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษ
> ต้องเป็นราคาที่เป็นธรรมกับผู้รับจ้าง ราคาต้องเป็นปัจจุบัน
> ราคาวัสดุที่ลดเพื่อส่งเสริมการขายบางช่วงเวลา ไม่เอามาใช้
> ราคาลดเพราะซื้อจำนวนมาก ให้เอามาใช้
~~~~~~~
ให้ความเป็นธรรมกับรัฐ
> วัสดุที่ใช้จำนวนมาก ต้องใช้ราคาที่สืบจากจำนวนมาก
> ไม่ใช้ราคาเพียง 1 หน่วย ไปสืบ
> ของจำนวนมาก ราคาย่อมต่ำลง
~~~~~~~
ให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้าง
> คิดราคาที่เป็นธรรมให้ผู้รับจ้าง
> ผูัรับจ้างทำงานต้องมีกำไร
> ผู้รับจ้างกินแกลบไม่ได้เหมือนไก่
> ไม่มีผู้รับจ้างรายไหน กินหญ้าเป็นอาหาร
~~~~~~~
สนใจอบรม ราคากลางงานก่อสร้าง กับ โยธาไทย
training.yotathai.com/
ดูและDownload
Categories
All
พรบ.พัสดุ
ป้าย
พัสดุ
ดัชนี
งานทาง
โปรแกรม
ข่าวสาร
ข้อหารือ
ครุภัณฑ์
ราคากลาง
แบบฟอร์ม
ชลประทาน
ค่าตอบแทน
ค่าตอบแทน
แบบฟรอร์ม
การทิ้งงาน
ราคามาตรฐาน
กรมบัญชีกลาง
งานดินลูกรัง
บอกเลิกสัญญา
ราคาต่อหน่วย
ระเบียบพัสดุ
สำนักงบประมาณ
จัดซื้อจัดจ้าง
รวมหนังสือหารือ
ราคาสิ่งก่อสร้าง
บัญชีราคามาตรฐาน
อัตราราคาต่อหน่วย
ควบคุมงานก่อสร้าง
ผลงานประเภทเดียวกัน
ผลงานประเภทเดียวกัน
ค่าอำนวนการก่อสร้าง
อัตราราคางานต่อหน่วย
การบริหารพัสดุภาครัฐ
ราคาผลิตภัณฑ์แอสฟัลท์
ราคาผลิตภัณฑ์แอสฟัลท์
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์
รวมข้อหารือจัดซื้อจัดจ้าง
ว159
ว452
ว78
Download
E-GP
Factor F
ค่าK
ดัชนีค่า K
โปรแกรมค่าk
วันเปิดซองค่า K
Tor